๑.๓) ลำโพง(speaker) เป็นอุปกรณ์ที่แสดงผลลัพธ์ในรูปแบบเสียง ส่วนใหญ่จะมาพร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ ลำโพงมีสองชนิด ดังนี้
(๑)ลำโพงแบบขยายเสียงในตัว จะมีปุ่มสำหรับปรับเสียงต่างๆ เช่น ปุ่ม volume สำหรับปรับความดังเสียง ปุ่ม base สำหรับปรับระดับความดังของเสียงทุ้ม และปุ่ม treble สำหรับปรับระดับความดังของเสียงแหลม เป็นต้น
(๒)ลำโพงแบบไม่มีวงจรขยายเสียง จะมีกรวยของลำโพงที่ใช้ภายในตัวลำโพง ลำโพงชนิดนี้ต้องใช้การ์ดเสียงที่มีวงจรขยายเสียงสำหรับขยายเสียงออกลำโพง
๒) หน่วยส่งออกถาวร (hard copy) เป็นอุปกรณ์แสดงผลที่ให้ผู้ใช้ได้ทรายผลลัพธ์ในรูปแบบกระดาษและสามารถนำผลลัพธ์ไปใช้ได้ในภายหลัง หน่วยแสดงผลถาวรที่นิยมใช้มีดังนี้
๒.๑) เครื่องพิมพ์ (printer) เป็นอุปกรณ์ที่แสดงผลลัพธ์ได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข ภาพนิ่ง ลงบนกระดาษ แบ่งเป็น ๒ ประเภท
(๑) เครื่องพิมพ์แบบกระทบ (impact printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้หลักการโดยการกระแทกหัวพิมพ์กับแทบผ้าหมึก ทำให้เกิดอักขระบนกระดาษ เครื่องที่นิยมใช้ได้แก่ เครื่องพิมพ์แบบจุด (dot-matrix printer) เครื่องพิมพ์ที่ใช้หลักการทำงานโดยการสร้างจุดลงบนกระดาษ โดยหัวพิมพ์จะมีลักษณะเป็นหัวเข็มที่มีลักษณะต่างๆ เมื่อเครื่องทำการพิมพ์ หัวเข็มที่อยู่ในตำแหน่งต่างๆ จะยื่นออกมา และกระแทกกับผ้าหมึกลงบนกระดาษที่ใช้พิมพ์ ทำให้เกิดจุดมากมายประกอบกันเป็นตัวอักษรหรือเป็นรูปขึ้นมา นิยมใช้กับการพิมพ์เอกสารที่มีสำเนา สามารถใช้กระดาษคาร์บอนคั่นระหว่างกระดาษ แรงกระแทกจะทำให้เกิดสำเนาเอกสารได้หลายสำเนา ข้อเสีย คือ มีเสียงดังขณะพิมพ์ ตัวอักษรไม่คมชัดมาก
(๒) เครื่องพิมพ์แบบไม่กระทบ (nonimpact) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้หลักการพิมพ์โดยวิธีการทางเคมีและใช้ความร้อนในการทำให้สีพิมพ์ติดกระดาษ ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีดังนี้
+ เครื่องพิมพ์ฉีดหมึก (ink jet printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้หลักการพ่นหยดหมึกเล็กๆ ให้ติดกับกระดาษ หมึกพิมพ์แบบสีจะต้องใช้แม่สีสามสี ซึ่งการใช้งานปกติหมึกจะหมดไม่พร้อมกัน ดังนั้น ในกรณีที่ใช้ตลับหมึกที่มีสามสีอยู่ในตลับเดียวกัน หากมีสีใดสีหนึ่งหมดก่อน ตลับนั้นจะใช้ไม่ได้อีก ดังนั้น บางบริษัทแยกแต่ละสีออกจากกัน เพื่อเปลี่ยนสีได้ เพื่อความประหยัด ส่วนใหญ่จะมีต้นพิมพ์ต่อแผ่นสูง แต่ตัวเครื่องมีราคาไม่แพง และให้ผลงานที่มีความสวยงาม คมชัด เครื่องพิมพ์ชนิดนี้นิยมใช้กับการพิมพ์เอกสารปริมาณไม่มาก เช่น พิมพ์รายงาน เป็นต้น
+ เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (laser printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้แสงเลเซอร์สร้างประจุไฟฟ้าบวกบนแผ่นกระดาษที่เคลื่อนที่ผ่าน ซึ่งผงหมึกที่มีประจุลบจะถูกดูดกับประจุบวก และลูกกลิ้งร้อนจะช่วยให้หมึกติดบนกระดาษ มีความเร็วในการพิมพ์สูง และมีต้นทุนในการพิมพ์ต่อแผ่นถูกกว่าแบบฉีดหมึก แต่ตัวเครื่องมีราคาสูง เครื่องพิมพ์เลเซอร์เหมาะกับงานที่ต้องพิมพ์ปริมาณมาก เช่น สำนักงาน ร้านถ่ายเอกสาร งานออกแบบสื่อโฆษณา เป็นต้น
+ เครื่องพิมพ์แบบใช้ความร้อน (thermal printer) ใช้หลักการพิมพ์โดยการกลิ้งหมึกพิมพ์ที่เคลือบแวกซ์ไปบนกระดาษ แล้วเพิ่มความร้อนให้กับหมึกพิมพ์จนแวกซ์ละลาย และติดอยู่บนกระดาษ บางชนิดอาจใช้สีแทนแวกซ์ ทำให้สามารถพิมพ์ภาพสีที่มีคุณภาพการพิมพ์สูง แค่ราคาเครื่องและค่าใช้จ่ายในการพิมพ์สูงมาก
+ เครื่องพิมพ์พล็อตเตอร์ (plotter) ใช้หลักการเขียนภาพด้วยหัวปากกา นิยมใช้ในการออกแบบทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม ซึ่งเป็นภาพขนาดใหญ่ ดังนั้นเครื่องพิมพ์จึงถูกออกแบบให้สามารถพิมพ์กับขนาดใหญ่ได้ถึง ๔๐ ๘๐ นิ้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น